กลยุทธ์ และสูตรที่เป็นตัวช่วยในการทำเงินเพิ่มอย่าง สูตรแทงทบ มาติงเกล หรือ Martingale ก็เป็นที่รู้จักในแวดวงเกมคาสิโน หากใครที่พอมีทุนถึงจะไม่มากเท่าไหร่นัก แต่ถ้าเพียงพอสำหรับการแทงทบมาติงเกลแล้วล่ะก็ บอกเลยว่าต่อให้เล่นแพ้ 2-3 ไม้ติดก็ไม่ใช่ปัญหา ยิ่งนักพนันที่สามารถอ่านเค้าไพ่ได้ มีเข้าใจเกี่ยวกับตารางไพ่ รวมไปถึงรู้จักเทคนิคการเดินเงิน โอกาสที่จะได้กำไรมีสูงถึง 100% เลยทีเดียว
ไพ่บาคาร่า กับการแทงทบนี้ถือว่าเป็นของคู่กัน เมื่อไหร่ก็ตามที่มีบาการาแน่นอนว่าจะต้องมากับการแทงทบ อยู่ที่ว่าจะเลือกแทงทบแบบไหน เช่น แทงทบ Martingale , แทงทบ Super Martingale , แทงทบ 4 ไม้ , แทงทบ 6ไม้ ฯลฯ ซึ่งในสูตรการเล่นก็จะมีทั้งแทบทบเมื่อเสีย และเเทงทบเมื่อได้ แต่อย่างไรก็ตามอย่าลืมไปว่าหัวใจสำคัญของการเล่นทบ จะต้องมีทุนที่มากพอสำหรับการเล่นเสียด้วย หากทุนน้อยเกินไปก็จะไม่สามารถตามเงินกลับมาได้และเสียไปฟรีๆในที่สุด
สูตรแทงทบ มาติงเกล คืออะไร ?
Martingale หรือ มาติงเกล คือ เทคนิคการเดินเงินรูปแบบหนึ่งที่จะทำให้นักพนันได้กำไรตามที่ตั้งเป้าไว้ สำหรับใครที่ทุนปานกลางถึงหนาสามารถนำไปใช้ได้แบบสบายๆ แต่สำหรับคนทุนน้อยไม่เกิน 200-300 ถามว่านำไปใช้ได้หรือไม่ ก็ใช้ได้เช่นกัน สำหรับสูตรนี้ไม่ว่าทุกท่านจะทุนน้อยหรือมากก็ใช้เทคนิคนี้ได้ เพียงแต่รูปแบบของการแทงทบจะเป็นในลักษณะที่ว่า เมื่อเล่นเสียจะต้องทบ x2 เท่าของยอดที่เสียไปเท่านั้นเอง เซียนหลายคนจึงออกมาบอกว่าหากทุนน้อยก็ไม่ควรที่จะทบ ถ้าหากจะเล่นทบควรเล่นในระยะสั้นๆ 2-3 ไม้พอมันถึงจะไม่เกินกำลังตัวเองจนเกินไป
สูตรทบมาติงเกล แทงทบคืออะไร ? จัดว่าเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการเล่น Baccarat Online เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นการแทงทบที่ง่ายที่สุด และใช้แค่เพียงทุนเท่านั้น ต่อให้นักพนันไม่แม่นเรื่องเค้าไพ่ หรือตารางไพ่ที่จะออกก็ไม่เป็นไร การใช้สูตรนี้จะทำให้ท่านได้เงินอย่างมหาศาล ถึงอย่างนั้นก็ไม่ควรที่จะลงเงินแบบวู่วาม ลงตามใจตัวเอง แพ้จนรู้สึกว่าอยากแทงซะให้มันหมดๆไปจนทำให้เราไม่ได้เล่นไปตามสูตรที่ควรจะเป็น สุดท้ายก็ต้องมานั่งเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ แนะนำให้ดูสูตรบาคาร่าเจ๋งๆที่เราได้ทำเนื้อหาไว้ให้อ่าน
รูปแบบของการเล่นทบ Martingale
อย่างที่เราได้กล่าวไปข้างต้นว่า สูตรนี้เป็นสูตรที่นักเดิมพันจะต้องแทงทบเพิ่ม 2 เท่าของยอดทุกครั้งที่เดิมพันแพ้ และเมื่อเราชนะเราก็จะไม่ใช้การแทงทบ แต่จะกลับมาวางเดิมพันแรกในทันที ตัวอย่างเช่น มีทุนอยู่ที่ 2,000 บาท ไม้แรกเราจะเริ่มที่ 100 ถ้าหากแพ้เราจะทบเพิ่มไปไม้สองก็จะเป็น 200 บาท ถ้าหากไม้สองยังแพ้เดิมพันอยู่ ไม้ที่สามก็จะกลายเป็น 400 บาท ถ้าหากไม้ที่สามชนะ เราก็จะกลับไปแทงทบในไม้ที่สี่อยู่ที่ 100 บาท
ตัวอย่างกรณีแทงทบแล้วเสีย
- ไม้ที่ 1 แทง 100 ผลคือแพ้ กรณีแพ้ให้ทบเป็น 200 ในรอบถัดไป แต่ถ้าชนะให้เดิมพันเท่าเดิม
- ไม้ที่ 2 เมื่อไม้แรกแพ้ ไม้ที่สองจึงต้องทบไปเป็น 200 หากไม้นี้แพ้อีก ต้องทบเข้าไปอีก 400 ในรอบถัดไป
- ไม้ที่ 3 เมื่อไม้สองแพ้ ไม้ที่สามต้องทบเข้าไปเป็น 400 ถ้าหากไม้สามยังแพ้อยู่ ในรอบถัดไปต้องทบเพิ่มเป็น 800
- ไม้ที่ 4 เมื่อไม่ที่สามแพ้ ไม้ที่สี่ต้องเดิมพันที่ 800 บาท แล้วถ้าหากไม้ที่สี่ก็ยังแพ้อยู่ ในรอบต่อไปจะต้องทบเป็น 1,600
- ไม้ที่ 5 เสียมาทั้งหมดสี่ไม้ ในไม้ที่ห้าเราต้องวางเดิมพันไว้ที่ 1,600 บาท แต่ถ้าหากไม้นี้ชนะ เงินที่เสียไปที่เราควรจะได้ตั้งแต่ไม้1-4 จะเท่ากับ 1,500 บาทไม่รวมทุน 1600 นั่นเอง
ทำไมถึงต้องนิยมเดินเงินบาคาร่า แบบ มาติงเกล
หลายคนอาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับการเดินเงินสักเท่าไหร่นัก เดิมทีนักพนันเราไม่แม้แต่จะมีกลยุทธ์ หรือเทคนิคอะไรที่หวือหวา รวมไปถึงความคิดเกี่ยวกับทางด้านการเดินเงิน แบ่งเงินเพื่อเล่นบาคาร่าเลยก็ว่าได้ แต่เพราะอะไรหลายๆอย่างเปลี่ยนแปลงไป ความคิดทางฝั่งยุโรปก็ได้เข้ามา ทำให้แนวคิดที่ว่า ต่อให้อ่านเค้าไพ่ไม่ถูกอย่างไรแต่ถ้ามีวินัยในการเดินเงิน ยังไงก็จะชนะเข้ามาทำให้นักพนันที่ประสบความสำเร็จต่างก็เห็นด้วย แถมยังนำเอาแนวคิดเหล่านี้ถ่ายทอดกันไปเรื่อยๆ ทำให้ในปัจจุบันเราถึงเห็นว่ามีการเดินเงินที่ค่อนข้างหลากหลายรูปแบบอยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็น Martingale , Super Martingale , Paroli , ลาบูแชร์ ฯลฯ
การเดิมพันมาติงเกลทำให้ลดความเสี่ยงจากที่มีอยู่แล้ว 70/30 ก็จะลดลงเป็น 50/50 มีทั้งโอกาสที่จะได้และเสียเท่าๆกัน แต่สามารถตามเงินที่เสียกลับมาได้อย่างง่ายดาย ถ้าหากเรามีทุนที่หนา และมีสติในการเล่นที่มากพอ แถมยังเป็นสูตรหรือเทคนิคที่ค่อนข้างใช้นำมาใช้งานได้จริง ทำตามได้ง่าย ดังนั้นนักพนันส่วนมากจึงนิยมใช้สูตรนี้เล่นทำกำไรนั่นเอง
โอกาสที่จะแพ้จากการใช้สูตรมาติงเกล มีมากน้อยขนาดไหน ?
หากจะให้พูดว่าเทคนิคหรือสูตรเหล่านี้ไม่มีความเสี่ยงเลยก็คงจะไม่ได้ ต่อให้เป็นเทคนิคที่ดีขนาดไหน หรือสูตรที่ดีขนาดไหน ก็ต้องมีความเสี่ยงด้วยกันอยู่แล้ว เพียงแค่ว่าจะเสี่ยงมากเสี่ยงน้อยเท่านั้นเอง ในส่วนของการความเสี่ยงจากการใช้เทคนิค Martingale ก็จะมีอยู่ 2 อย่างก็คือ ทุนไม่พอที่จะทบจึงทำให้แพ้ กับเล่นระยะยาวไม่รู้จักพอจึงทำให้แพ้
สำหรับกรณีที่ทุนไม่พอที่จะทบก็อย่างที่ทุกท่านทราบกันอยู่แล้วว่า หากทุนไม่พอก็จะตามเงินกลับมาไม่ได้เท่าที่ควรจะเป็น แต่สำหรับกรณีที่เล่นระยะยาวไม่ยอมเลิก แน่นอนว่าการใช้สูตรนี้ต่อให้มีทุน แต่ก็ไม่ควรจะเล่นระยะยาว หมายความว่า หากจะใช้สูตรนี้ควรที่จะเล่นไม่เกิน 5 ไม้ ถ้าหากแพ้ 5 ไม้ติดกันก็ควรพักก่อน หรือไม่ก็หาห้องอื่นเล่นแทน หากตัดปัญหาข้อนี้ไปได้โอกาสที่จะแพ้จากที่มีสูงๆ ก็ลดลงไปเยอะแล้ว
